เทมเป้ คืออะไร โปรตีนสูงจริงหรือไม่

ประเทศอินโดนิเซียเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริโภคและการแปรรูปถั่วเหลือง (Soybean) ตัวเลขกลมๆ บอกว่าชาวอินโดนีเซียบริโภคถั่วเหลืองกว่า 2 ล้านตันต่อปี เรียกได้ว่าถั่วเหลืองเป็นเหมือนแหล่งโปรตีนหลักของทั้งประเทศเลยทีเดียว และในช่วงหลายปีให้หลังมานี้ ก็มีอาหารท้องถิ่นของอินโดนีเซียเมนูหนึ่งได้กลายเป็นดาวดวงใหม่ในวงการอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารมังสวิรัติ และ Plant-based food นั่นก็คือ เทมเป้ (หรือเตมเป้ หรือเทมเปะ) นั่นเอง

เทมเป้คืออะไร

เทมเป้  เป็นอาหารพื้นเมือง และเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญของชาวอินโดนีเซียมาตั้งแต่ปี 1815 แต่บัดนี้ เทมเป้กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เนื่องจากคุณสมบัติเด่นและประโยชน์ต่างๆจากเทมเป้

เทมเป้ ทำมาจาก ถั่วเหลืองล้วนๆ ที่นำมาหมักโดยวิธีธรรมชาติ มีลักษณะเป็นแผ่น ที่อัดแน่นด้วยถั่วแต่ไม่แข็ง เนื้อจะนุ่มและสามารถหั่นเป็นชิ้นต่างๆเพื่อประกอบอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารมังสวิรัติ หรือ ผู้ที่หลีกเลี่ยงอาหารจากเนื้อสัตว์

ประโยชน์ของเทมเป้


1. ลดอาการวัยทองในผู้หญิง

โดยปกติ ถั่วเหลือง จะมีสารที่ชื่อว่า ไอโซฟลาโวน ซึ่งทำหน้าที่เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยปรับให้ฮอร์โมนในเพศหญิงเกิดความสมดุล เมื่อรับประทานเทมเป้เข้าไป จึงช่วยลดอาการวัยทองในผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้นได้ ลดอาการผมร่วง ผมหงอกช้า ลดการเกิดอารมณ์แปรปรวน และยังมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูผิวพรรณให้เปล่งปลั่งได้อีกด้วย โดยปกติ บนห่อผลิตภัณฑ์เทมเป้ จะระบุจำนวนไอโซฟลาโวนให้เห็นด้วย มีปริมาณอยู่ที่ 40 – 50 กรัม ต่อ 1 ชิ้น

2. ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด

นอกจากทำหน้าที่เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน สารไอโซฟลาโวนยังช่วยลดคอเลสเตอรอลที่สูงผิดปกติ หรือ (LDL) ซึ่งเป็นไขมันชนิดที่ไม่ดี ทำให้ไขมันในหลอดเลือดลดลง ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดมีสภาพเป็นปกติ ลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไขมันในหลอดเลือดสูง และการเกิดโรคหัวใจ

3. บำรุงสมองและระบบประสาท

เทมเป้ยังมีสารอีกชนิดหนึ่งคือ เลซิติน ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท เนื่องจากเป็นสารตั้งต้นของการสร้างสื่อประสาทในสมองคือ Acetylcholine หากร่างกายได้รับเลซิตินในปริมาณที่เพียงพอ ก็จะช่วยป้องกันและรักษาอาการผิดปกติของระบบประสาทบางประเภทได้

4. บำรุงตับ ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี

เลซิติน ยังช่วยบำรุงตับได้ดี เนื่องจากประกอบด้วยกรดไขมัน คือ ฟอสเฟต (Phosphate) และโคลีน (Choline) ซึ่ง โคลีน จะมีส่วนช่วยให้เซลล์ตับมีการเผาผลาญไขมันได้อย่างปกติ ลดการเกิดภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคตับอักเสบและตับแข็ง โดยเลซิติน ยังมีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลายของน้ำดี ช่วยให้น้ำดีไม่จับตัวจนเป็นก้อนนิ่ว ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้อีกด้วย

5. ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและสร้างเม็ดเลือดให้เป็นปกติ

วิตามิน B12 ถือว่าเป็นวิตามินที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในวัยเด็ก เนื่องจากช่วยเพิ่มความอยากอาหาร ทำให้ทานอาหารได้มาก ในขณะที่ผู้สูงอายุ การได้รับวิตามิน B12 จะช่วยในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือดให้เป็นปกติ และยังช่วยบำรุงระบบประสาท ทำให้เคลื่อนไหวได้ดี ลดอาการอ่อนแรง ซึ่งปกติแล้ว วิตามิน B12 จะพบได้ในเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่หากทานเทมเป้เข้าไป ก็จะได้รับวิตามินชนิดนี้เช่นกัน

สูตรทำ เทมเป้ ด้วยตัวเองที่บ้าน


การทำเทมเป้ด้วยตัวเองที่บ้าน ทำได้ไม่ยากเลย ใช้วัตถุดิบเพียงแค่ 3 อย่างเท่านั้น คือ ถั่วเหลืองดิบ น้ำส้มสายชู หัวเชื้อเทมเป้ ระยะเวลาการทำอยู่ที่ 2-3 วันเท่านั้น ก็เป็นอันเสร็จ สามารถรับประทานแทนเนื้อสัตว์ได้ ใครเป็นสายเฮลท์ตี้หรืออยากได้ Plant-based ทานแทนเนื้อสัตว์ ห้ามพลาด ไปทำตามวิธีด้านล่างนี้ได้เลย

วัตถุดิบ

  • ถั่วเหลืองดิบ 500 กรัม
  • น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
  • หัวเชื้อเทมเป้ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
  1. เตรียมชามหรือกะละมังสำหรับใส่น้ำ ใส่ถั่วเหลืองดิบ 500 กรัมลงไป แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
  2. แช่ถั่วในน้ำดื่มสะอาด 12 ชั่วโมง โดยให้ใส่น้ำ ให้ท่วมความสูงเกินถั่วไปอีกหนึ่งเท่า เพราะในช่วงเวลาที่แช่ ถั่วจะพองตัวขึ้นอีก แช่ทิ้งไว้จนกว่าจะมีฟองขึ้นและเกิดกลิ่นเปรี้ยว
  3. เทน้ำแช่ถั่วทิ้ง ล้างถั่วเหลืองด้วยน้ำสะอาด ใช้ฝ่ามือถูกับถั่วเหลือง เพื่อเอาเปลือกออกจนหมด ถ้ามีเศษเปลือกถั่วลอยขึ้นมา ให้ใช้กระชอนตักออก
  4. เสร็จแล้ว นำถั่วเหลืองไปต้ม ควรใช้น้ำดื่มเหมือนเดิม ตั้งไฟ ให้น้ำเดือดก่อนแล้วค่อยนำถั่วเหลืองลงไป ต้มด้วยไฟกลางค่อนแรง 30-40 นาที เมื่อครบเวลา ให้กรองเอาน้ำออก แล้วสะเด็ดน้ำถั่วให้พอแห้งหมาด ๆ
  5. ใช้ไม้พายคนถั่วเหลืองให้คายความร้อน จนมีอุณหภูมิอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส
  6. ใส่น้ำส้มสายชูหมัก 3 ช้อนโต๊ะ คนให้ทั่ว จากนั้น ใส่หัวเชื้อเทมเป้ 1 ช้อนชา คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  7. เตรียมถุงพลาสติกมีซิปล็อก ตักถั่วเหลืองใส่ลงไปในจำนวนที่ต้องการ ค่อย ๆ ตบให้ถั่วเหลืองรวมตัวกันเป็นก้อนสี่เหลี่ยม แล้วปิดปากถุงด้วยซิปล็อก เสร็จแล้ว ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นเจาะรูเล็กแบบถี่ ๆ ให้ทั่วทั้ง 2 ด้าน 8. วางบนตะแกรงหรือถาดในที่อากาศถ่ายเทได้ ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ประมาณ​ 28 -32 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 วัน ไม่เกิน 3 วัน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในเวลานั้น ระยะนี้เป็นระยะที่มีกลิ่นหอมและทานง่ายสุด ใน 12 ชั่วโมงแรกอาจจะยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง แต่หลังจากนั้นถั่วจะค่อยๆ ร้อนขึ้น เป็นไอและเริ่มจับตัวเป็นก้อนมีใยขาวๆ ขึ้นปกคลุม
  8. เมื่อครบเวลา ถั่วเหลืองจะกลายเป็นก้อนเทมเป้ มีใยขาวๆ ขึ้นปกคลุม สามารถนำมาทานหรือเก็บเข้าตู้เย็นทั้งที่ยังอุ่นได้เลย โดยช่องธรรมดาควรทานภายใน 1 อาทิตย์ หากเก็บในช่องฟรีซ จะเก็บได้ประมาณ​ 1 เดือน

แนะนำ เครื่องซีลสูญญากาศ สำหรับใช้ถนอมอาหาร และคงสภาพอาหาร ให้มีสภาพดีสุด  ช่วยดูดอ๊อกซิเจนภายในออกจนหมด เครื่องซีลจาก SGE มีให้เลือกตามงบประมาณที่ลูกค้าต้องการ


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น