สอนทำไข่ดาวสามรส เอาใจสายออกกำลังกาย

เด็กห้อง เด็กหอ มนุษย์คอนโด มาทางนี้ ใครที่กำลังมองหาสูตรอาหารง่าย ๆ ใกล้สิ้นเดือน ไข่ดาวสามรส เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เวลาไปนั่งทานที่ร้านอาหาร จะพบว่าราคาค่อนข้างสูงทั้งๆ ที่มีวัตถุดิบพียงน้อยนิด แต่ด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปากทานได้ทั้งครอบครัว รับประทานกับข้าวสวยก็อร่อย เราจึงอดใจไม่ได้ที่จะสั่งมาทุกที แต่พอมาลองทำเองที่บ้านก็จะพบว่าทำยังไงก็ไม่อร่อยเหมือนที่ร้าน เพราะบางทีผักก็เหี่ยวบ้าง กลิ่นไม่หอมบ้าง กระเทียมไหม้ไปบ้างก็มี วันนี้เราจึงมีสูตรการทำไข่ดาวสามรส พร้อมเคล็ดลับความอร่อยมาฝาก ลองไปดูกันว่าจะออกมาชวนหิวขนาดไหน  

วิธีทำไข่ดาวสามรส

• ไข่ไก่หรือไข่เป็ดจำนวน 2 ฟอง
• น้ำมันพืช 1 ถ้วย
• เลือกเห็ดที่คุณชื่นชอบครึ่งถ้วย
• พริกชี้ฟ้าและพริกแดงหั่นแว่น 2 เม็ด
• กระเทียมสับครึ่งช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำส้มสายชูครึ่งช้อนโต๊ะ
• ผักชีและต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า 1 ถ้วยเล็ก 

1. เริ่มต้นจากการทอดไข่ดาวให้กรอบนอก นุ่มใน และไข่แดงไม่ต้องสุกมาก
2. โดยให้ใช้น้ำมันร้อนบนกระทะไฟแรง เมื่อสุกแล้วให้คุณตักใส่ตะแกรงหรือจาน วางไว้เพื่อสะเด็ดน้ำมัน
3. ใส่น้ำมันลงกระทะอีกเล็กน้อยแล้วใส่กระเทียมลงไปเจียวแค่พอหอม
4. ใส่พริก, เห็ด แล้วทำการปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาล, น้ำส้มสายชู จากนั้นผัดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้วโรยพริกไทยอีกเล็กน้อย
5. นำมาราดลงบนไข่ดาวแล้วโรยหน้าด้วยผักชีกับต้นหอม จากนั้นรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้ทันที

แอดมินขอแนะนำให้เลือกซื้อ หม้อทอด ดีๆ ซักหม้อ เพื่อให้การทำอาหารของทอดของคุณง่าย และอร่อยขึ้น หากเป็นธุรกิจหม้อทอดดีๆ ก็จะช่วยถนอมน้ำมันของคุณให้ใช้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ทำให้คุณประหยัดน้ำมันในการทอดไปได้มากโข แนะนำหม้อทอด SGE ที่ราคาถูกแต่คุณภาพดีมาก (แอดมินซื้อหม้อทอดไฟฟ้า SGE มาใช้ได้ 2 ปีแล้วปัจจุบันยังใช้ได้ดีอยู่ ไม่มีอาการอะไรเลย)

คุณประโยชน์ของไข่ดาวสามรส

เมื่อคุณรับประทานไข่ดาวสามรสที่ให้รสชาติอร่อยแตกต่างไปจากไข่ในรูปแบบเดิม ๆ แล้ว ลองมาดูว่าเมนูนี้จะให้คุณประโยชน์ใดกับคุณได้บ้าง

1.ไข่ไก่

ไข่ไก่จะอุดมไปด้วยโปรตีนที่มีมากกว่า 20% และยังมีกรดไขมันฟอสโฟลิพิดกับสารเลซิตินที่จะส่งผลสำคัญต่อการกระตุ้นและพัฒนาสมอง ช่วยทำให้ระบบประสาทมีความแข็งแรง เหมาะสำหรับเด็กและคุณแม่ตั้งครรภ์ ทั้งยังมีลูทีนและซีแซนทีนที่ช่วยบำรุงสายตา มีธาตุเหล็กและวิตามินอีกหลายหลาย ที่จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

2.เห็ด

เห็ดถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารที่นอกจากจะให้รสชาติดีแล้ว ยังเป็นส่วนผสมที่สร้างคุณค่าให้กับร่างกายได้เช่นกัน โดยเห็ดจะมีหลายชนิด แต่โดยประโยชน์ของเห็ดแล้วจะคล้ายคลึงกัน คือ มีสารต้านอนุมูลอิสระมีวิตามินบีรวมและเกลือแร่สำคัญต่อร่างกาย จึงช่วยป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ลดอัตราการเต้นของหัวใจที่มีความผิดปกติ ลดปัญหาระบบกล้ามเนื้ออักเสบและบำรุงประสาทให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.พริกชี้ฟ้า

พริกชี้ฟ้ามีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการหวัด อาการคัดจมูก และอาการแพ้ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังยับยั้งจุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อร้ายบางชนิดได้ พร้อมช่วยขับเสมหะและช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญพลังงานที่ดีกว่าเดิม

Cr. Kaewmnee Chuensung / Sanook.com